เรื่องเล่าประสบการณ์...จากนิสิตฝึกประสบการวิชาชีพครู



        เรื่องเล่าประสบการณ์...จากนิสิตฝึกประสบการวิชาชีพครู

สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ นางสาวณัฐอนงค์ ด้วงแก้ว ปัจจุบันเป็นนิสิตชั้นปีที่ 4 คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกวิทยาศาสตร์ – เคมี มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา เนื่องจากอีกไม่นานนับจากนี้ ดิฉันและเพื่อนๆ ต้องออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปหน้าที่เป็นนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา จึงมีความรู้สึกต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะดีใจที่ใกล้จบการศึกษาและกำลังจะได้ไปทดลองฝึกประสบการณ์จริงๆ ในโรงเรียน หรือรู้สึกเสียใจที่จะต้องจากเพื่อน และต้องเปลี่ยนสถานะตัวเองให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น หรือรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ แต่ทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่อาจทราบได้เลยถ้าไม่ลองเผชิญกับสิ่งนั้นดู ดิฉันจึงเกิดความสนใจที่จะสอบถามประสบการณ์จากรุ่นพี่คนหนึ่งดู โดยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นดังนี้ คือ (เกิดจากครูส่วนน้อย) ครูมีพฤติกรรมชอบใช้งานส่วนตัว ใช้งานนอกเวลาของการเรียนการสอน พูดจากระทบกระแทกไม่ให้เกียรติ เป็นต้น และอีกทั้งครูส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ เช่น การใช้โปรแกรม Exell และการใช้สื่อ Socail ต่างๆ รุ่นพี่เล่าว่าเมื่อเวลาคุณครูท่านนั้นให้ช่วยก็ต้องทำ และในบางครั้งเมื่อปฏิเสธก็จะถูกพูดจากระทบกระแทรก แต่จะให้ทำงานให้ทุกครั้งไม่ได้ จึงต้องมีเทคนิคการปฏิเสธที่ดีและก็ไม่ต้องคิดมากถ้าต่อไปดิฉันจะเจอเหตุการแบบนี้เกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อนำมาย้อนคิดว่า.... 
ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ บ้างจะทำอย่างไร ดิฉันก็คงจะต้องช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยเกินไปก็อาจจะปฏิเสธไปบ้างเช่นกัน ดิฉันคิดว่าไม่มีวิธีใดในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือและความเป็นธรรมที่จะเกิดขึ้นกับนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูด้วย ขอบคุณค่ะ


ความคิดเห็น

  1. ณัฐฐิณีภรณ์ ศรีสุขใส 581031268
    หากมีปัญหากับครูพี่เลี้ยงเป็นเรื่องการปรับตัวในโรงเรียนซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การเป็นครูฝึกสอน ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่จะดุ หรือพูดจาให้รู้สึกเสียใจ แต่คิดใแต่คิดในทางที่ดีไว้ว่า เขาใส่ใจและอยากให้เราปรับปรุงในส่วนที่ผิดพลาด เราไม่ต้องตอบโต้ด้วยการแสดงพฤติกรรมที่รุนแรง แต่ให้คะ/ครับไว้ ความเป็นเด็กยังไงให้น่าเอ็นดู เหนื่อยใจหน่อยก็ต้องอดทน เป็นเรื่องเป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องพบเจอ ทำใจให้เข้มแข็งไว้ แต่สู้่แต่สู้ต่อไปด้วยปณิธานว่าเรมาสอนเพราะเรากำลังมาทำให้สิ่งที่รัก และมีความสุขในสิ่งที่ทำ ��

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นางสาวกานต์ชนก กานต์นภัทร รหัสนิสิต 581031262
      ในการพบเจอปัญหาดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราอาจจะเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ในการออกฝึกสอนคือทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่และดีที่สุด ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับดิฉันดิฉันมองว่า เราเป็นนิสิตฝึกสอน ในการออกฝึกสอนเป็นการที่เราไปหาประสบการณ์ ซึ่งคนที่จะมอบประสบการณ์ต่างๆให้เรานั่นก็คือโรงเรียนนักเรียน รวมไปถึงคุณครู ในโรงเรียน และครูพี่เลี้ยงของเรา ซึ่งแน่นอนว่า หน้าที่ของเรานอกเหนือจากการสอนนักเรียนในห้องเรียนแล้ว นั่นคือการ ทำตามคำสั่งของครูพี่เลี้ยง คือทำงานที่ครูพี่เลี้ยงได้มอบหมายให้กับเรา หรืองานที่เป็นครูเวรต่างๆที่โรงเรียนได้จัดไว้ให้ นอกจากนี้เราควรที่จะมีจิตสาธารณะ หากเรามีเวลาว่าง หรือ งานที่เราได้รับมอบหมายให้ทำเสร็จสิ้นหมดแล้ว การช่วยงานคุณครูท่านอื่น นอกเหนือจากครูพี่เลี้ยงของเราถือเป็นการแสดงความมีน้ำใจและความมีจิตสาธารณะ ของนิสิตฝึกสอนอย่างเรา แต่หากงานที่เราได้รับมอบหมายจากครูพี่เลี้ยงหรือจากโรงเรียนยังมีเยอะและยังไม่เสร็จ แล้วคุณครูท่านอื่นต้องการให้เราทำงาน ให้ท่าน การเลือกใช้คำพูดในการปฏิเสธหรือชี้แจงให้คุณครูได้เข้าใจ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นจริงๆ เราอาจจะ พูดปฏิเสธหรือชี้แจงให้คุณครูท่านนั้นเข้าใจ อย่างเช่นว่า ขอโทษจริงๆนะคะคุณครู ไม่ทราบว่างานคุณครู รีบมากหรือเปล่าคะ หากคุณครู ไม่ได้รีบ หนูขออนุญาตทำงานที่ได้รับมอบหมายจากคุณครูพี่เลี้ยงให้เสร็จสิ้น เสียก่อน นะคะ หากเสร็จแล้วและมีเวลาว่างไม่มีสอนหนูจะช่วยทำงานของคุณครูให้นะคะ 😊 ในส่วนของการแสดงออกทางสีหน้าอารมณ์และท่าทาง ก็เป็นส่วนที่สำคัญที่เราต้อง keep look เอาไว้ ไม่ว่าจะโดนติเตียนหรือโดนดุว่าอย่างไรไม่ควรแสดงสีหน้าอารมณ์ทำหน้าขุ่นมัว ควรยิ้มรับ คำตำหนิติเตียนไว้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน แนะนำไปปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น ดิฉันต้องขอขอบคุณบทความดีๆจากใบเตยมากๆนะคะที่นำมาแชร์ประสบการณ์ให้กัน 😁🙏

      ลบ
  2. นิสิต 581031262
    ในการพบเจอปัญหาดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราอาจจะเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ในการออกฝึกสอนคือทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่และดีที่สุด ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับดิฉันดิฉันมองว่า เราเป็นนิสิตฝึกสอน ในการออกฝึกสอนเป็นการที่เราไปหาประสบการณ์ ซึ่งคนที่จะมอบประสบการณ์ต่างๆให้เรานั่นก็คือโรงเรียนนักเรียน รวมไปถึงคุณครู ในโรงเรียน และครูพี่เลี้ยงของเรา ซึ่งแน่นอนว่า หน้าที่ของเรานอกเหนือจากการสอนนักเรียนในห้องเรียนแล้ว นั่นคือการ ทำตามคำสั่งของครูพี่เลี้ยง คือทำงานที่ครูพี่เลี้ยงได้มอบหมายให้กับเรา หรืองานที่เป็นครูเวรต่างๆที่โรงเรียนได้จัดไว้ให้ นอกจากนี้เราควรที่จะมีจิตสาธารณะ หากเรามีเวลาว่าง หรือ งานที่เราได้รับมอบหมายให้ทำเสร็จสิ้นหมดแล้ว การช่วยงานคุณครูท่านอื่น นอกเหนือจากครูพี่เลี้ยงของเราถือเป็นการแสดงความมีน้ำใจและความมีจิตสาธารณะ ของนิสิตฝึกสอนอย่างเรา แต่หากงานที่เราได้รับมอบหมายจากครูพี่เลี้ยงหรือจากโรงเรียนยังมีเยอะและยังไม่เสร็จ แล้วคุณครูท่านอื่นต้องการให้เราทำงาน ให้ท่าน การเลือกใช้คำพูดในการปฏิเสธหรือชี้แจงให้คุณครูได้เข้าใจ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นจริงๆ เราอาจจะ พูดปฏิเสธหรือชี้แจงให้คุณครูท่านนั้นเข้าใจ อย่างเช่นว่า ขอโทษจริงๆนะคะคุณครู ไม่ทราบว่างานคุณครู รีบมากหรือเปล่าคะ หากคุณครู ไม่ได้รีบ หนูขออนุญาตทำงานที่ได้รับมอบหมายจากคุณครูพี่เลี้ยงให้เสร็จสิ้น เสียก่อน นะคะ หากเสร็จแล้วและมีเวลาว่างไม่มีสอนหนูจะช่วยทำงานของคุณครูให้นะคะ 😊 ในส่วนของการแสดงออกทางสีหน้าอารมณ์และท่าทาง ก็เป็นส่วนที่สำคัญที่เราต้อง keep look เอาไว้ ไม่ว่าจะโดนติเตียนหรือโดนดุว่าอย่างไรไม่ควรแสดงสีหน้าอารมณ์ทำหน้าขุ่นมัว ควรยิ้มรับ คำตำหนิติเตียนไว้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน แนะนำไปปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น ดิฉันต้องขอขอบคุณบทความดีๆจากใบเตยมากๆนะคะที่นำมาแชร์ประสบการณ์ให้กัน 😁🙏

    ตอบลบ
  3. ปัญหาเรื่องการโดนพูดกระทบกระแทก เป็นเรื่องที่แทบทุกคนจะต้องเจอในสังคมของการทำงาน เพราะจะให้มีคนทุกคนมาชอบเรามันก็คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นเราก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป อย่าเก็บมาคิด ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำได้ยาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อจิตใจ แต่อยากจะให้ทุกคนลองปล่อยวางลง และหาอย่างอื่นทำเพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย ส่วนอีกเรื่องที่เราจะโดนใช้งานจากคุณครูท่านอื่นๆ ถ้ามันไม่ได้มากเกินไปหรือที่เราพอจะทำได้เราก็ต้องทำ เพื่อแสดงความมีน้ำใจ แต่ถ้ามันเป็นงานที่นอกเหนือจากที่เราจะทำได้การเลือกที่จะปฏิเสธด้วยอย่างมีเหตุผล อย่าปฏิเสธด้วยคำพูดที่จะทำให้มีผลกระทบต่อไปกับเรา และถ้ามีเหตุการณ์อะไร ก็ให้เรา อดทนไว้ก่อน อย่าใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา เพราะนอกจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว จะทำให้ปัญหาลุกลามไปกันใหญ่

    ตอบลบ
  4. จากที่ได้อ่านมา ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ต้องโดนขอช่วยให้รับภาระงานที่ไม่ใช่ของตนเองที่มากเกินไป ต้องบอกเลยว่าบางครั้ง การเลือกปฏิเสธในบางเรื่อง อาจเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม การที่เราเลือกปฏิเสธไม่ได้หมายความว่าเห็นแก่ตัว แต่เราควรเลือกปฏิเสธให้เป็น หากรับมาทุกอย่างเราก็จะทำมันได้ไม่ดีมากพอเลยสักอย่าง และจะทำให้ไม่มีเวลาทำงานในส่วนของงานตัวเองเลย

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น